sangdaw
วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
banner


1. ชื่อศิลปิน / ชื่่อวง
- Big Bang
2. แนวเพลง
- Hip Hop Rock Dance.
3. Concept
- BigShow
ข้อมูลศิลปิน
-หัวหน้าวง หน้าทะเล้น หน้าเป็น แป้นแล้น น่ารัก น่าหยิก ควานจียง หรือที่แฟนๆรู้จักในนาม GD หรือ G-dragon
(ยง ในภาษาเกาหลีแปลว่ามังกร) อายุ 19 ปี
เป็นเด็กฝึกหัดในสังกัดวายจีมาตั้งแต่อายุ 12
เคยร่วมแจมกับรุ่นพี่ๆน้าๆลุงๆในค่ายทั้งในอัลบั้มและในงานคอนเสิร์ตมากมาย
ออกแนวฮิพตั้งแต่เล็กแต่น้อย แรพเป็นไฟได้ตั้งแต่เด็ก
แต่งตัวเก่งมากกกกกก และรักการถ่ายรูป(ตัวเอง)เป็นชีวิตจิตใจ
เซนส์ด้านแฟชั่นเป็นเลิศ (ชอบใส่หมวก มีหมวกเป็นร้อย)
นอกจากความสามารถด้านการแรพและบีทบอกซ์แล้ว จียงยังสามารถแต่งเพลงเองได้อีกด้วย
โดยในซิงเกิ้ลแรกที่ออกมา จียงเป็นผู้แต่งเพลงThis Love และ We belong together ร่วมกับT.O.P.ชเวซึงฮยอน
หนุ่มน้อยมาดเท่ห์ ทงยองแบ หรือ YBเทคควอน ของแฟนๆวายจี แต่มาคราวนี้เปิดตัวในฉายา แทยัง(แปลว่าพระอาทิตย์)
เป็นเด็กฝึกหัดวายจีมา6ปี เช่นเดียวกับจียง มีประสบการณ์แจมกะรุ่นเดอะในค่ายมากมายเช่นเดียวกัน
ยองแบนั้นตอนเด็กๆมีหน้าที่เดินสายแรพ แทนรุ่นพี่ที่ไม่ว่างขึ้นเวที ไปต่างประเทศ หรือขี้เกียจ!
แต่ในวงบิ๊กแบงยองแบทำหน้าที่ร้องนำ เสียงหล่อ หวานสุดริด จนคนฟังงง (เพราะขัดกะหน้าม๊ากมาก)
ภาพลักษณ์ภายนอกดูเท่ห์ เข้ม แต่จริงๆแล้วยองแบพูดน้อย ขี้อาย (ตรงข้ามกับจียงซึ่งพูดมากและไม่มีความอาย)
ไม่กล้ามองตาผู้หญิง เขินกล้องอีกต่างหาก <3
ในช่วงที่เป็นเด็กฝึกหัดวายจี ทั้งจียงและยองแบเป็นที่รู้จักในนาม GDYB และมีแฟนๆมากมายแม้ไม่เคยมีอัลบั้มของตัวเอง
หนุ่มหล่อพี่ใหญ่ของวง ชเวซึงฮยอน หรือหลายๆคนเรียกว่า Tempo ชื่อที่ใช้ในวงก็คือT.O.P.
รุ่นพี่และสต๊าฟในค่ายเรียกเค้าว่า คึนซึงฮยอน แปลว่าbigซึงฮยอน (เนื่องจากบิ๊กแบงมีซึงฮยอน2คน)
เทมโปมีหน้าที่เป็นrapperในวง เค้าเคยชนะการประกวดRap battleของKBS Radio เมื่อปี2003
มีความสามารถในการทำบีทบ๊อก ที่ใครเห็นก็ต้องอึ้ง ทีมงานวายจีบอกว่า การทำบีทบ๊อกของเทมโปเหมือนกับเป็นงานศิลปะเลยทีเดียว!
เทมโปเคยทำเพลงอินดี้ และเคยแสดงในคลับมาก่อนที่จะได้รับการชักชวนเข้ามาฝึกหัดในสังกัดวายจี
เห็นหน้าหล่ออย่างงี้ แต่เป็นคนฮามาก กล้าทำอะไรอย่างชนิดที่ไม่เคยคิดว่าคนหล่อจะกล้าทำเลยทีเดียว
smile angel คังแดซอง อายุ18ปี นักร้องนำอีกคนของวง
หลายๆคนเห็นตอนแรกอาจจะยี้!!ไม่หล่อ ต้องฟังเสียงร้องค่ะ amazingมากกกกก
แถมดูไปนานๆ แดซองจะดูดีขึ้นๆทุกที ด้วยบุคลิกที่ร่าเริง สนุกสนาน โดยเฉพาะรอยยิ้มสดใส
จึงไม่แปลกที่หนุ่มแดซองเป็นขวัญใจของแฟนๆ มีทั้งเว็บคาเฟ่ที่แฟนคลับทำเฉพาะสำหรับแดซอง
และมือของแดซองที่ต้องถือถุงนั่นหิ้วของขวัญนี่ทุกครั้งที่ไปโรงเรียน
ในตอนแรกที่เข้ามาออดิชั่นนั้นแดซองถูกทีมงานเรียกว่า 'พ่อคนน่าเกลียด' เนื่องจากความไม่หล่อนั่นเอง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทีมงานต่างยืนยันว่า แดซองเป็นคนที่ป๊อปปูล่าที่สุดคนนึงในวงเลยทีเดียว
น้องเล็กของวง อีซึงฮยอน หรือซึงริ อายุ17ปี(ตามเกาหลี แต่นับแบบสากลอายุ15เท่านั้นเอง เนื่องจากเกิดปลายปี)
ชื่อเปิดตัวในนามบิ๊กแบงคือ V มาจากคำว่า Victory
เหล่าทีมงานวายจีเรียกว่า 'มักเน' ที่แปลว่า คนเล็ก ทำหน้าที่ร้องนำ(แต่ดูไม่ค่อยได้นำเท่าไหร่ -_-)
ซึงริเคยเข้าร่วมในรายการBattle Shinwha เพื่อการค้นหาชินฮวารุ่นที่2 แต่ถูกคัดออกไปในEpisodeที่13
เนื่องจากเหตุผลที่ว่า ถึงแม้จะเต้นเก่งมากๆ แต่การร้องเพลงยังใช้ไม่ได้
แต่ท่านประธานของวายจีเห็นแวว จึงได้รับตัวเข้ามาฝึกหัดในสังกัดวายจี
โดยท่านประธานได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า ซึงริอายุยังน้อย และยังไม่เคยได้รับการฝึก เชื่อว่าถ้าได้รับการฝึกฝนจะต้องทำได้ดี
ความสามารถที่โดดเด่นของซึงริอยู่ที่การเต้นและการออกแบบท่าเต้น ที่ทำให้เพื่อนร่วมวงอ้าปากค้างมาแล้ว
วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3

1. ชื่อเรื่อง
- สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
2. ข้อมูลเบื้องต้น
- สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เกิดขึ้นจาก บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (อังกฤษ: Bangkok Entertainment Company Limited; ชื่อย่อ: บีอีซี.; BEC ปัจจุบันอยู่ในเครือบีอีซี เวิลด์) ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัท เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 โดยนายวิชัย มาลีนนท์ และ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ลงนามร่วมกัน ในสัญญาดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์ เมื่อวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2511 โดยมีอายุสัญญา 10 ปี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2513-25 มีนาคม พ.ศ. 2523
โดยตามสัญญา กำหนดให้มีที่ดินไม่น้อยกว่า 6 ไร่ เพื่อก่อตั้งสถานีส่งออกอากาศ พร้อมทั้งสิ่งก่อสร้าง และอุปกรณ์การส่งโทรทัศน์ทั้งหมด รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท โดยจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ ของบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด ทันที เมื่อเริ่มส่งออกอากาศ แต่เมื่อลงทุนจริง บริษัทฯ ใช้ทุนไปทั้งสิ้น 54.25 ล้านบาท สูงกว่าในสัญญา 29.25 ล้านบาท และระหว่างการร่วมดำเนินกิจการตามสัญญา ในระยะเวลา 10 ปีนั้น บริษัทฯ ต้องจ่ายค่าตอบแทน แก่บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด เป็นเงิน 44 ล้านบาท และเงินสวัสดิการ แก่พนักงานบริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด อีกปีละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 10 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 54 ล้านบาท
อนึ่ง บริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้ขยายอายุสัญญาดำเนินกิจการส่งโทรทัศน์ กับองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ซึ่งแปรรูปมาจาก บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2520 มาแล้วสองครั้ง คือเมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2521 ขยายออกไปอีก 10 ปี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2523-25 มีนาคม พ.ศ. 2533 และในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 ขยายออกไปอีก 30 ปี ระหว่างวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2533-25 มีนาคม พ.ศ. 2563
ต่อมา เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2513 ไทยทีวีสีช่อง 3 เริ่มทดลองออกอากาศ โดยใช้กำลังส่งเต็มระบบคือ 50 กิโลวัตต์ ด้วยเครื่องส่งขนานเป็นครั้งแรก ระหว่างเวลา 19.00-21.00 น. จากนั้น ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2513 ทางสถานีฯ เริ่มทดลองแพร่ภาพออกอากาศแบบเสมือนจริง ระหว่างเวลา 09.30-24.00 น. และเริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2513 ตามเวลาฤกษ์ คือ 10.00 น. โดยมีจอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีฯ
เมื่อราวต้นปี พ.ศ. 2512 มีพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารที่ทำการสถานีฯ บนที่ดินขนาด 6 ไร่เศษ บริเวณกิโลเมตรที่ 19 ถนนเพชรเกษม เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร โดยอาคารดังกล่าว มีความสูง 4 ชั้น ภายในเป็นห้องส่งขนาด 600 ตารางเมตร 2 ห้อง, ขนาด 500 ตารางเมตร 2 ห้อง และขนาด 110 ตารางเมตร อีก 1 ห้อง โดยแต่ละห้องส่งจะมีห้องควบคุมเฉพาะ ซึ่งมีการติดตั้งระบบไซโครามา สูง 7.5 เมตร กว้าง 47 เมตร ใช้ประดิษฐ์ภาพฉากท้องฟ้า ซึ่งก่อให้เกิดความชัดลึก และเปลี่ยนสีให้กับฉากได้เสมือนจริงอีกด้วย ทั้งนี้ เมื่อเริ่มแพร่ภาพออกอากาศแล้วทางสถานีฯ ต้องส่งมอบอาคาร และที่ดินดังกล่าว ตลอดจนเครื่องส่งโทรทัศน์ และอุปกรณ์การออกอากาศต่างๆ ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำกัด โดยทันที
ต่อมาได้แยกส่วนของสำนักงาน มายังอาคารเลขที่ 2259 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และจัดสร้างห้องส่งโทรทัศน์ บนชั้น 8 ของอาคารโรบินสัน จากนั้น เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2529 จึงได้รวมส่วนงานที่กระจายอยู่ 3 แห่ง มารวมศูนย์อยู่ที่อาคารวานิช 1 และ 2 บริเวณแยกวิทยุ-เพชรบุรี (ถนนวิทยุตัดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่) เพื่อเพิ่มความสะดวกในการดำเนินงานให้คล่องตัวมากขึ้น และในราวปี พ.ศ. 2542 สถานีฯ ย้ายอาคารที่ทำการทั้งสามส่วนงาน ขึ้นไปยังอาคารเอ็มโพเรียม ถนนสุขุมวิท[2]
ในปัจจุบัน (ตั้งแต่ พ.ศ. 2547) จึงย้ายมายังอาคารที่ทำการปัจจุบัน โดยมี บมจ.บีอีซีเวิลด์ เป็นเจ้าของด้วยตนเองคือ อาคารมาลีนนท์ (เดิมเป็นอาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท เอสโซ่ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน)) เลขที่ 3199 ถนนพระรามที่ 4 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย 2 อาคาร โดยอาคาร เอ็ม 1 เป็นที่ตั้งสำนักงานบริษัทฯ และ อาคาร เอ็ม 2 เป็นส่วนปฏิบัติการออกอากาศ[1]
3. วัตถุประสงค์
- เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างการยอมรับให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการบริหารงานของให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
4. กลุ่มเป้าหมายหลัก
ด้านกายภาพ
- ชาย/หญิง/เด็ก/คนชรา
- โสด/สมรส
- ไม่จำกัดอายุ

- เป็นบุคคลที่ชอบดูรับชมข่าวสาร สาระบันเทิง และรายการทางสื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุ และสื่ออื่นๆ
5. แนวความคิด (Concept)
- ก้าวไกลรับใช้สังคม
6. เหตุผลสนับสนุนแนวคิด (Support)
- ให้ความรู้ความบันเทิงพร้อมกับการก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับใช้สังคมอย่างเต็มที่
7. อารมณ์และความรู้สึก (Mood & Tone)
- สนุก ตื่นเต้น สุขใจ



8. ผลตอบสนอง (Desired response)
- เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างการยอมรับให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
- เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานการบริหารงานของให้กับสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง3
วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
แนวโน้มการนำเสนองานนิเทศศาสตร์
ข่าว แนวโน้มธุรกิจโฆษณาปี 2553 เริ่มสดใส คาดมูลค่าตลาดเติบโตร้อยละ 6.7
จากทุกสถานีข่าว
เรียงตามความสัมพันธ์เรียงตามเวลาชี้เศรษฐกิจจีนปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 11
วันที่ 2010-08-09 19:05:56 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ - 27.080904006958
รูปปั้นประธานเหมา หน้าพื้นที่ปลูกสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน ไท่หยวน มณฑลซานซี - ล่าสุดผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาจีน คาดการณ์ว่า หากการใช้จ่ายงบประมาณการคลังในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.4 โดยที่อุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศไม่ลดลงอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง อัตราเติบโตของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของจีนในปีนี้ ก็จะขึ้นไปถึงร้อยละ 11 ทีเดียว (ภาพเอเยนซี) รอยเตอร์ - บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำแห่งรัฐบาลจีนแสดงความเห็นเมื่อวันจันทร์(9 ส.ค.) ว่า เศรษฐกิจจีนจะแข็งขันและมีเสถียรภาพในครึ่งปีหลัง พร้อมทั้งเติบโตร้อยละ 10 ถึง 11 ตลอดทั้งปี
นายจาง อี้ว์ ไถ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาและคลังสมองแห่งคณะรัฐมนตรีจีน คาดการณ์ว่า หากการใช้จ่ายงบประมาณการคลังในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.4 จีดีพีจีนจะโตที่ร้อยละ 10
จากทุกสถานีข่าว
เรียงตามความสัมพันธ์เรียงตามเวลาชี้เศรษฐกิจจีนปีนี้ขยายตัวถึงร้อยละ 11
วันที่ 2010-08-09 19:05:56 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ - 27.080904006958
รูปปั้นประธานเหมา หน้าพื้นที่ปลูกสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ใน ไท่หยวน มณฑลซานซี - ล่าสุดผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาจีน คาดการณ์ว่า หากการใช้จ่ายงบประมาณการคลังในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.4 โดยที่อุปสงค์ทั้งภายในและภายนอกประเทศไม่ลดลงอย่างรวดเร็วในครึ่งปีหลัง อัตราเติบโตของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ของจีนในปีนี้ ก็จะขึ้นไปถึงร้อยละ 11 ทีเดียว (ภาพเอเยนซี) รอยเตอร์ - บรรดานักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำแห่งรัฐบาลจีนแสดงความเห็นเมื่อวันจันทร์(9 ส.ค.) ว่า เศรษฐกิจจีนจะแข็งขันและมีเสถียรภาพในครึ่งปีหลัง พร้อมทั้งเติบโตร้อยละ 10 ถึง 11 ตลอดทั้งปี
นายจาง อี้ว์ ไถ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยพัฒนาและคลังสมองแห่งคณะรัฐมนตรีจีน คาดการณ์ว่า หากการใช้จ่ายงบประมาณการคลังในปีนี้ ขยายตัวร้อยละ 11.4 จีดีพีจีนจะโตที่ร้อยละ 10
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)